Share
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2559 ที่ผ่านมาผมได้ไปชมและทดลองขับ Corolla Altis Esport โฉมปรับปรุงออฟชั่น 2016 เพื่อรับภาษีสรรพสามิตใหม่มา โดยตามสเปกที่ได้อ่านรีวิวมาก่อนหน้านี้ รุ่น Esport เป็นรุ่นที่โดนใจสำหรับทุกคนที่ออก Altis เป็นอย่างมาก โดยตัวใหม่ได้เพิ่มราคามาอยู่ที่ 939,000 บาทจากเดิม 899,000 แต่ราคาที่เพิ่มมาก็มีสิ่งที่เพิ่มมาด้วยนะครับ ลองไปชมกันดูนะครับ

หน้ารถ รุ่นนี้ได้เพิ่มไฟตัดหมอกหน้ามาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานด้วยครับ จากเดิมต้องซื้อเพิ่มเป็นอุปกรณ์ตกแต่ง

ที่ท้ายรถไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ

เวลาติดเครื่องรถ ไฟ Daytime Running Light ก็จะติดครับ

ยามเปิดไฟหรี่ ไฟ Daytime Running Light ก็จะหรี่ความสว่างลงทำหน้าที่เป็นไฟหรี่ เปิดพร้อมไฟต่ำโคม Projector แบบหลอด LED สว่างสไสวมากครับ และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟตัดหมอกหน้าครับ ในเมื่อมันให้มาก็เปิดบ้างซะที สว่างจ้าดีมาก แต่เอาจริงได้ใช้แค่ตอนฝนตกเท่านั้นหละครับ

ไฟสูงอารมภ์เหมือนเดิมหละครับ ไม่มีอะไรพิเศษ แค่หลอดฮาโลเจน แต่มองแล้วแสบตาอยู่ครับ

แอร์ออโต้ก็ยังปลอมๆอยู่เหมือนหละครับ ขนาดเพิ่มมาตั้ง 40,000 Heater ยังไม่ใส่มาให้อยู่ดีหละครับ จนหลายคนบอกหนาวมากจนต้องปิด A/C ไปเลย (ผมเองก็หนาวครับ ขี้หนาว)

เรือนไมล์ตามแบบเดิมๆหละครับ ถ้าอยากได้แบบ Optiorn ก็ไปซื้อ 1.8 Esport nurburgring edition, 1.8G หรือ 1.8V ได้นะครับ (ถ้ากล้าจริงก็ซื้อเรือนไมล์มาเปลี่ยนได้นะ แต่ต้องแลกกับศูนย์ไม่ดูแลให้)

ที่แปลกใหม่คือตรงนี้ครับ รุ่นนี้ให้ระบบ VSC TRC มาเพิ่มแล้วครับ จากเดิมที่จะมีแค่ตัว 1.8V เท่านั้น ถือว่าที่เพิ่มมา 40,000 คุ้มตรงนี้มากๆ

เวลาเราปิด TRC ครับ แต่ถ้าจะปิด VSC ผมยังกดไม่เป็นเลย มันจะมีปุ่มอยู่ข้างซ้ายของพวงมาลัย จุดตัวกับตัว 1.8V เลยครับ

จุดนี้ต้องร้อง สุโค่ยยยย จริงๆครับ ไฟตัดหมอกหน้าที่ให้มาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานทำมาให้เป็นก้านเปิดปิดเลย แถมโชว์เรือนไมล์ด้วยครับ ต่อไปนี้ใครจะซื้อตัวนี้ไม่ต้องไปติดเพิ่มหละ เพราะถ้าเป็นอุปกรณ์ตกแต่งจะเป็นปุ่มกดตรงคันเกียร์ดูไม่น่าใช้งานเลย (จริงๆเรือนไมล์ตัวนี้ถ้าถัดลงไปจากสัญญาลักษณ์ไฟตัดหมอกหน้าที่เปิดอยู่ในรูปลงไปจะเป็นไฟตัดหมอกหลังนะครับ ซึ่งจะมีแค่ในต่างประเทศเท่านั้น ส่วนที่ไทยไม่ได้ติดตั้งไฟตัดหมอกหลังมาให้ครับ)

ที่บังแดดเพิ่มไฟส่องสว่างมาให้ด้วยครับ จากเดิมที่จะมีแค่รุ่น 1.6G, 1.8G และ 1.8V เท่านั้น

กระจกมองหลังไม่เปลี่ยนแปลง จะปรับตัดแสงโดยต้องอัตโนมือเองครับ

เบาะหน้าก็ทรงสปอร์ตเหมือนเดิม นั่งแล้วน่าขับดีนะ

ขนาดปรับที่นั่งคนขับลงมามาก พื้นที่วางขาด้านหลังยังกว้างอยู่ครับ

ตัว Esport เบาะหลังก็เหมือนรุ่นทั่วๆไปหละครับ ไม่มีที่วางแขนและพับไม่ได้เหมือนตัว 1.8G และ 1.8V อยู่ดีหละครับ

ไฟส่องสว่างตรงกลางก็มีให้ทุกคัน
สรุปราคาเพิ่มมา 40,000 กับออฟชั่นที่มีมาเพิ่มได้แก่ ไฟตัดหมอกหน้า, ไฟส่องสว่างตรงที่บังแดด, VSC TRC ผมว่าคุ้มจริงๆครับกับรถราคา 9 แสนต้น เป็นราคาที่ไม่แพงเกินไป และก็ไม่ถูกเกินไป ใครชอบก็จัดเลยนะครับ
แต่จุดที่ยังผิดหวังอยู่เลยคือ ทำใม Toyota ก็ยังไม่ใส่ Heater ให้กับรุ่นที่ใช้แอร์ออโต้ เพราะราคาเพิ่มมาตั้งขนาดนี้ แล้วไม่ใส่ Heater มาให้ แอร์ออโต้มันคุมอุณหภูมิไม่ได้หรอกครับ ได้แค่คุมความแรงของพัดลมเท่านั้น และอีกจุดคือ Cruise Control ก็ยังไม่ให้มาอยู่ดีครับ แต่จุดนี้มันก็เอาไปติดเพิ่มเองได้หละนะ เพราะ Esport ตัวก่อนปรับออฟชั่นหลายคนคงเอาไปติดตั้งเพิ่มมาแล้วหละ เพราะ ECU ของรุ่น 1.8 ทุกคันมันมีโหมด Cruise Control รองรับมาให้อยู่แล้วเพียงแต่ไม่มีระบบต่อไปหาเท่านั้นเอง
ปล.เรือนไมล์ Altis Esport ตัวใหม่ที่ไม่ใช้ Optitron น่าจะใช้ตัวเดียวกับของต่างประเทศนะที่มีไฟแสดงระบบ VSC TRC นะ แต่จำได้ว่าของต่างประเทศจะมีไฟแสดงสถานี Cruise Control มาด้วยซึ่งอยู่ตรงปลายหางเข็มวัดความเร็วรถ ไม่ทราบว่าของไทยจะมีมาให้หรือเปล่า ถ้าใครซื้อแล้วไปติดตั้ง Cruise Control ช่วยอัพเดทมาให้ดูหน่อยนะครับ เผื่อมันมีสัญญาลักษณ์รองรับมาให้แล้ว